#DEFNET #JAS39 #Sweden #Gripen (บทความนี้เป็นกาแปลจากบทความต่างประเทศ ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้กองทัพอากาศเสียหายแต่อย่างใด)
ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสวีเดน เครมว่าเครื่องบินรบSAAB JAS-39E Gripen รุ่นใหม่มีความสามารถในการจัดการกับเครื่องบินขับไล่ตระกูล Flanker ไม่ว่าจะเป็น Su-27,Su-30 และ Su-35
โดยเครื่องบินตระกูล Flanker ของ รัสเซียได้รับการออกแบบให้เป็นเครื่องบินรบที่ออกมาเพื่อต่อสู้กับ F-15 Eagle ของกองทัพอากาศสหรัฐ และยิ่งเป็น Su-35 รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล ที่ดีพอจะต่อกรกับ F-22 Raptors ที่ทันสมัยกว่าได้
ในทางตรงกันข้าม กองทัพอากาศของสวีเดนขาดเครื่องบินรบที่แบบครองอากาศที่ใช้งานได้ดีพอจะจัดการเครื่องบินขับไล่รัสเซีย โดยสวีเดนมี SAAB JAS-39 Gripen เป็นกำลังรบหลักเดียวของกองทัพอากาศ ซึ่งการออกแบบนั้นมีความคล้ายคลึงกับLockheed Martin F-16 Fighting Falcon คือการออกแบบที่ให้ความสำคัญคือ ต้นทุนที่ต่ำ แต่เครื่องแบบนี้ก็ยังขาดความเร็ว อัตราการไต่ และ น้ำหนักบรรทุกที่น้อย หรือเซ็นเซอร์ขั้นสูง อย่างที่เครื่องบินขับไล่ที่มีราคาแพงกว่าเช่น F-15 และ Su-30
ในการรบทางอากาศที่ผ่านมา เครื่องรบแบบอเนกประสงค์ ยังเสียเปรียบเครื่องบินขับไล่ครองอากาศอยู่ในการรบ เช่นปฏิบัติการพายุทะเลทราย หรือ สงครามเอธิโอเปีย - เอริเทรียน ที่F-15 และSu-27 สามารถจัดการเครื่องบินขับไล่แบบMig-29 ที่เป็นเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ได้ รวมไปถึงอิหร่านที่นำเครื่องบินขับไล่ F-14 จัดหาเครื่องขับไล่อเนกปะสงค์ของกองทัพอากาศอิรัก ในสงครามอิรัก-อิหร่าน
ดังนั้น สวีเดนที่มีเครื่อง SAAB JAS-39 Gripen ที่มีขนาดเล็ก บินได้ช้ากว่า และน้ำหนักบรรทุกที่น้อยกว่า จึงไม่สามารถต่อสู้กับเครื่องตระกูล Flanker ได้ ตามเหตุการณ์ตามประวัติศาสตร์ ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องตระกูล Flanker ยังมีการเดินหน้าไปเรื่อยๆ ทั้งการปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ Su-27 เป็นมาตรฐาน Su-27SM2 ที่มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น และการพัฒนารุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Su-35 ที่ติดตั้งเรดาร์ใหม่ Irbis-E ที่ทรงพลังและการออกแบบที่ทำให้เครื่องสามารถต่อสู้ทางอากาศได้ดียิ่งขึ้น
ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสวีเดน กล่าวว่า SAAB JAS-39E Gripen ออกแบบมาเพื่อจัดการเครื่องFlanker โดยเฉพาะ แต่ยังคงรูปแบบ การพัฒนาโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำ และคงคุณสมบัติเฉพาะตัวเอาไว้ ซึ่ง JAS-39E Gripen พร้อมต่อกรกับกับเครื่องตระกูล Flanker และมีขีดความสามารถเหนือกว่าเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ด้วยกันเองอย่าง F-16 หรือ Mig-29 โดยการออกแบบเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงที่ทันสมัย จากเดิมที่ JAS-39C/D Gripen ใช้เครื่องยนต์ Volvo RM12 ซึ่งพัฒนามาจาก General Electric F404 โดยสวีเดน แต่ JAS-39E Gripen ใช้ General Electric F414 ที่ทรงพลังและมีความสามารถ มากกว่ารุ่นเดิม แม้จะยังมีแรงขับน้อยกว่า AL-31 ที่ใช้ในตระกูล Flanker หรือ F110 ใน F-16
เรดาร์ Raven ES-05 AESA ผลิตโดย บริษัท Leonardo ของอิตาลี ที่ประสิทธิภาพมากกว่าเรดาร์ PS-05 / A Pulse-Doppler ในรุ่นเก่า ซึ่งทั้งนี้การที่สวีเดนเลือกเรดาร์ต่างประเทศมาใช้งาน ไม่วิจัยและพัฒนาเรดาร์เอง เนื่องด้วยจะทำให้ต้นทุกการพัฒนาสูงขึ้น
อาวุธของเครื่อง JAS-39 Gripen รุ่นเก่า ยังใช้ตัวของAIM-120C ที่มีระยะยิงเทียบเท่ากับตัวของ R-77 แต่ JAS-39E Gripenรองรับการติดตั้ง AIM-120D ที่มีขีดความสามารถเหนือกว่า R-77 หรือ R-27ER และ Meteor จรวดเครื่องยนต์ Ramjet ที่มีผลิตในยุโรป โดยจรวดเหล่านี้เป็นไม้ตายในการรบระยะนอกสายตาเพื่อจัดการ ตระกูล Flanker นอกจากนี้ ยังมีระบบสงครามอิเล็คทรอนิกส์ที่ทันสมัย เพื่อขีดขวางและระบบตรวจสัญญาณเรดาร์ของฝ่ายตรงข้าม
แต่ปัญหาของคือ เครื่องตระกูล Flankerขึ้นชื่อเรื่องของการที่มีขีดความสามารถในการรบในระยะสายตาซึ่งJAS-39E Gripen อาจจะเสียเปรียบได้ และอีกเรื่องคือราคาที่สูง อาจจะสูงมากกว่า เครื่องตระกูล Flanker หรือแม้แต่ F-35A ที่มีขีดความสามารถในการตรวจจับยากด้วย
อย่างไรก็ตามสวีเดนก็ยังเชื่อมั่นว่า SAAB JAS-39E Gripen จะตอบโจทย์ข้อนี้ของกองทัพอากาศสวีเดนได้
(แล้วท่านผู้อ่านละครับ คิดว่ารับมือได้หรือไม่?)
ที่มา
https://militarywatchmagazine.com/article/can-sweden-s-lightweight-gripen-e-really-tackle-russia-s-su-27-su-30-and-su-35-flankers?fbclid=IwAR0Qf4GrsImzaDaz3uYsXcXB_gYKQR89l7bPSEpfJ3lusMsQYSqc6w3XExU
แปล เขียนและเรียบเรียงโดย: ณภัทร ยลละออ
Comments