ระบบจรวดต่อต้านอากาศยาน LIG Nex1 KM-SAM หรือรู้จักกันในอีกชื่อ Cheolmae-2/Cheongung เรียกสั้นๆว่า M-SAM เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะปานกลาง ถูกพัฒนาโดย องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเกาหลีใต้ - Agency for Defense Development (ADD) ซึ่งเริ่มพัฒนาในปี พ.ศ. 2554 ด้วยการช่วยเหลือด้านเทคนิคจาก บริษัท Almaz-Antey และบริษัท Fakal ประเทศรัสเซีย ซึ่งใช้ระบบดังกล่าวพื้นฐานเทคโนโลยีของ จรวดพื้น-สู่-อากาศ 9M96 ที่ใช้งานบน ระบบจรวดต่อต้านอากาศยาน 50R6 S-350E Vityaz และ S-400 Triumf ส่วนผู้ที่ได้รับสิทธิในการผลิตคือ บริษัท LIG Nex1 (ชื่อเก่า LG Innotek) บริษัทในเครือ LG Corporation ทางกองทัพอากาศเกาหลีใต้ ต้องการนำมาเข้าประจำการทดแทน ระบบจรวดต่อต้านอากาศยาน Raytheon MIM-23C Hawk ที่ใช้งานมานานตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980
ใน 1 กองพัน ของ ระบบจรวดต่อต้านอากาศยาน KM-SAM ประกอบด้วย รถฐานยิง จำนวน 6 คัน รถเรดาร์แบบ PESA (Passive Electronically Scanned Array) คลื่นเรดาร์แบบ X-band แบบ 3มิติ ซึ่งตัวเรดาร์นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาบนฐานของเรดาร์ที่ใช้งานในระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ S-400
KM-SAM จัดเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะปานกลางตามหลักนิยมของเกาหลีใต้ ซึ่งแม้จะมีระยะยิงเพียง 40 กิโลเมตรก็ถือเป็น ระยะปานกลาง ซึ่ง KM-SAM นั้นถูกพัฒนาภายใต้ความร่วมมือของขององค์กรจาก 2 ประเทศคือ Almaz-Antey จากรัสเซีย และ Samsung Thales,LIG Nex1 และ Doosan DST ของเกาหลีใต้
โดยที่ KM-SAM หรือที่เรียกในภาษาเกาหลีว่า ระบบป้องกันภัยแบบ Cheongung (천궁 ที่มีความหมายว่า ท้องฟ้า) หรือ Iron Hawk ซึ่งจะเข้ามาประจำการแทนที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ MIM-23 Hawk มีความสามารถในการต่อต้านอากาศยานเพดานบินสูงสุด 15 กิโลเมตร ที่ระยะยิงไกลสุด 40 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากที่ Almaz-Antey เป็นที่ปรึกษาในโครงการ KM-SAM ของเกาหลีใต้ในครั้งนี้นั้น ก็ได้นำเอาประสบการณ์ที่ได้ทำในครั้งนี้ไปปรับปรุง S-350 ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก
กองทัพอากาศเกาหลีใต้ได้กล่าวว่าจะเริ่มทำการนำ KM-SAM เข้าสายการผลิตแบบเต็มกำลังในช่วงปี 2015 ที่ผ่านมา และได้มีการนำ KM-SAM เข้าประจำการแทนระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ MIM-23 Hawk ที่ประจำการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1964 ซึ่ง KM-SAM นั้นมีความสามารถในการล็อกเป้าหมายได้พร้อมกัน 6 เป้าหมาย รวมไปถึงความสามารถในการต่อต้านการโจมตีด้วยสงครามอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งระบบทั้งหมดนี้ได้รับการทดสอบประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ตามข้อกำหนดทางทหารของเกาหลีใต้เมื่อปี 2015 และได้มีการนำไปติดตั้งบริเวณชายแดนติดกับเกาหลีเหนือบริเวณแถวทะเลเหลืองในคาบสมุทรเกาหลี
ในปี 2017 กองทัพเกาหลีได้มีการประกาศออกมาว่าได้ทำการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธระดับต่ำ โดยพัฒนาบนพื้นฐานของ KM-SAM ซึ่งเป็นการดัดแปลงให้มีหัวรบแบบ Hit to Kill เพื่อสกัดหัวรบของขีปนาวุธที่ระดับความสูงประมาณ 20 กิโลมเมตรเหนือพื้นดิน โดยจะมีการผลิตในขั้น Mass Production เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา และจะทำการติดตั้งในปี 2019
การพัฒนาต่อไปในอนาคต
Agency for Defense Development (ADD) มีแผนที่จะทำการพัฒนา KM-SAM ให้มีความสามารถสูงขึ้นด้วยการเพิ่มความสามารถในการต่อต้านขีปนาวุธ โดยต้องการจะทำให้มีความสามารถใกล้เคียงกับ Patriot PAC-3 ด้วยการเพิ่มระยะยิงให้มากขึ้นเป็นราวๆ 100-150 กิโลเมตร ครอบคลุมความสูงราวๆ 30 กิโลเมตรหนือพื้นดิน
และอีกโครงการคือการพัฒนา Cheolmae-2 หรือ KM-SAM รุ่นสำหรับใช้งานทางทะเล ซึ่งจะทำการยิงจากท่อยิงอาวุธนำวิถีแนวดิ่ง VLS : Vertical Laucnher Systems โดยจะทำการติดตั้งบนเรือฟริเกต KFX-II Batch2 ชั้น Daegu Class Frigate
แหล่งข้อมูลและข่าว :
1.https://armyrecognition.com/november_2017_global_defense_security_news_industry/south_korea_first_live_fire_exercise_with_km-sam_cheongung_missile_system.html
2.https://defense-update.com/20111217_cheongung_mrsam.html#.VjwLzyvw_Mp
เขียน และเรียบเรียงโดย : ปฏิภาพ นิกูลกาญจน์
Comments