ในการความขัดแย้งของซีเรีย ซึ่งกองทัพซีเรียใช้งานรถถังสมัยของโซเวียตและรัสเซียจำนวนมาก ทำให้รัสเซียที่ได้รู้ถึงจุดบกพร่องของรถถังที่เจอในซีเรียและนำปัญหาเหล่านี้กลับมาพัฒนารถถังและยานเกราะ ให้มีขีดความสามารถอยู่รอดและต่อสู้ในสนามรบได้ดีขึ้น
ในช่วงปี2560ที่ผ่านมา รัสเซียมีการพัฒนารถถังแบบ T-80BVM ,T-72B3M , T-90M ออกมาซึ่งเพิ่มขีดความสามารถจากรุ่นเดิมขึ้นมาอีก
รถถังแบบ T-80BV ถูกมาใช้ในปี 1985 มันเป็นรุ่นดัดแปลงของ T-80B ที่มีเกราะปฏิกิริยาระเบิด Kontakt-1 โดย T-80BV มีน้ำหนัก 43.7 ตัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ก๊าซเทอร์ไบน์ GTD-1000TF 1,100 แรงม้าให้ความเร็วสูงสุดที่ 70 กม./ชม. และระยะ 500 กม. และติดตั้งปืนรุ่น 2A46M-1 ขนาด 125 มม. พร้อมกระสุน 38 นัด ในระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ รถถังสามารถยิงจรวดนำวิถีต่อต้้าน Kobra 9M112 (ชื่อนาโต้: AT-8 Songster) และ 9M119M Refleks (AT-11 Sniper)
โดยการอัพเกรด T-80 เป็นมาตรฐาน T-80BVM จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรบของฃรถถังได้อย่างมาก โดยมีการติดตั้งระบบควบคุมการยิงแบบ Sosna-U พร้อมเครื่องค้นหาระยะเลเซอร์ กล้ัองจับภาพความร้อน และ ระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงให้รถถังสามารถใช้งานในอุณหภูมิ -50องศาเซลเซียลได้
รัสเซียมีการปรับปรุงรถถัง T-72B3 ที่ได้รับการปรับปรุง 800 คัน ให้เป็นมาตราฐาน T-72B3M ซึ่งมีการปรับปรุงเครื่องยนต์ดีเซล 1,130 แรงม้าและชุดเกราะที่ได้รับการปรับปรุง รถถังยังได้รับระบบการกำหนดเป้าหมายใหม่พร้อมระบบดิจิตอล กล้องโทรทัศน์มองหลัง ติดตั้งเกราะปฏิกิริยาระเบิด Relikt และ แบบ soft-shell เพิ่มเติม ในส่วนของระบบอาวุธ รถถังได้รับปืน 2A46M-5 ที่สามารถยิงจรวดนำวิถีต้อต้านรถถังได้ รวมถึงระบบเล็งที่ช่วยให้ผู้บังคับบัญชาการรถถังตรวจจับเป้าหมายในระยะไกลถึง 4,000 ม.
รถถังหลัก T-90M เชื่อว่าเป็นรถถังที่ทันสมัยไม่น้อยหน้ารถถังรุ่นไหนสำหรับกองทัพรัสเซีย สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม. ภายใต้สภาพอากาศทุกรูปแบบ รถถังได้รับระบบควบคุมการยิงที่ทันสมัยซึ่งสามารถจับเป้าหมายไก้ในระยะถึง 5,000 เมตร และติดตามเป้าหมายอัตโนมัติที่สามารถทำงานในโหมด Hunter-Killer รถถังมีความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม. และพลประจำรถ3นาย สามารถข้ามลำน้ำที่มีความลึก 5 เมตรโดยติดอุปกรณ์เสริม มีอาวุธหลักเป็นปืน 2A46M-5 ขนาด 125 มม. ซึ่งสามารถยิงจรวดนำวิถีต่อต้านรถถังและปืนกลร่วมแกน PKTM 7.62 มม.
นอกจากรถถังแล้วยังมียานเกราะที่ช่วยสนับสนุนการรบรุ่น BMPT Terminator-2 โดยใช้พื้นฐานจากแคร่รถถังT-72 ติดตั้งอาวุธเพื่อการยิงสนับสนุนทหารในการดำเนินกลยุทธ์ รถเกราะมีน้ำหนักพร้อมรบ 44 ตัน ติดตั้งปืนใหญ่กลขนาด 30 มม. 2A42 จำนวน2กระบอกพร้อมกระสุน 850 นัดและปืนกลร่วมแกน 7.62 มม. PKTM ที่บรรจุกระสุน 2,100 นัด นอกจากนี้ยังมีจรวดนำวิถีต่อต้านรถถังข้างละสองนัด รถเกราะได้รับการติดตั้งระบบควบคุมการยิงที่มีความทันสมัยสามารถพร้อมใช้งานตลอด24ชม.
รองรัฐมนตรีกลาโหมของนายพล Dmitry Bulgakovกล่าวว่าการปรับปรุงเหล่านี้ เน้นบทบาทของกองกำลังภาคพื้นดินในความขัดแย้งสมัยใหม่ การปฏิบัติการในซีเรียได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้อาวุธจรวดนำวิถีจะมีความแม่นยำสูง แต่ไม่สามารถรับประกันชัยชนะได้หากไม่มีส่วนร่วมของกำลังภาคพื้นที่จะเข้าไปในพื้นที่ ดังนั้นรถถังและยานเกราะต่างๆจึงยังมีความสำคัญในการรบ
ที่มา
https://armyrecognition.com/analysis_focus_army_defence_military_industry_army/modernization_of_russian_mbt_inventory_after_syrian_conflict.html?fbclid=IwAR0X8S13ise6kzex6iEHs6aj8fvplc8I6ppliqdk2P1p0D_ThWhPRFsctW8
แปล เขียนและเรียบเรียงโดย: ณภัทร ยลละออ
Opmerkingen