Tavor Family
บทกล่าวนำ
ประวัติความเป็นมาของ IWI Tavor เป็นเรื่องที่น่าสนใจทำให้ผมพยายามสืบค้นข้อมูลของตัวปืน เนื่องด้วยเป็นหนึ่งใน ปลย.หลักของกองทัพบกไทย ที่ประจำการในชื่อว่า ปืนเล็กยาวแบบ ๕๐ ทดแทนปืนเก่าๆอย่างปลย. M16 M16A1 หรือ ปลย.11 ที่ใช้มานาน ในบทความนี้จะกล่าวถึงการออกแบบ ตัวอย่างแรก ไปจนถึงปืนแบบต่างๆในตระกูลนี้มีออกมาให้เห็นในปัจจุบัน
ในปี 1991 บ.Israeli Military Industry Ltd.(IMI) ในขณะนั้น ได้เริ่มการพัฒนา ปลย.แบบใหม่ เพื่อทดแทนปลย.M16A1 และปลย.Galil ในตอนแรกแบบร่างของ Tavor เริ่มต้นจะเป็นการนำรูปทรงคร่าวๆของ ปลย.แบบ Bullpup ที่มีในช่วงนั้น มาวาดประกอบและเปรียบเทียบหาจุดที่ลงตัวของตัวเอง แม้ว่ายังไม่มีการออกแบบกลไกการทำงานอื่นๆของตัวปืน
ในภาพร่างสุดท้ายมีเขียนกำกับว่า “AAR90” น่าจะเป็นชื่อแรกที่ถูกตั้งให้ Tavor ตัวปืนตั้งใจให้เป็นทรงแบบ Bullpup แนวลำกล้องอยู่ต่ำและค่อนไปในตัวโครงปืน
ขั้นตอนถัดไปในการพัฒนา ได้มีการสร้างตัวจำลองปืนเพื่อทดสอบการใช้งานในท่าต่างๆ
เปรียบเทียบท่ายิงแบบต่างๆกับปืนทรงธรรมดา
หัวหน้าทีมออกแบบอย่าง Zalman Shebs ได้แสดงภาพแบบจำลองขั้นต้นหรือไม่ก็ตัวต้นแบบ
ในที่สุด ตัวที่ใช้ทดสอบยิงจริงเสร็จสมบูรณ์ และปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1998
ในปี 1999 เริ่มทดสอบการใช้งานโดยกองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล โดยได้ชื่อว่า Tavor TAR-21 (Tavor Assault Rifle,for 21 Century=ปลย.จู่โจมทาโวร์ สำหรับศตวรรษที่ 21) เพื่อทดสอบหาปัญหาและแก้ไขให้ตัวปืนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ตัวทดสอบโดย IDF
ตัวปืนเป็นแบบ Bullpup โครงปืนทำจากแผ่นโลหะสอดอยู่ในโครงโพลิเมอร์ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวทั้งกระบอก(ด้ามปืน โกร่งไกปืน ช่องเสียบซองกระสุน ประกับรองมือ) ทำรูระบายแก๊ส ด้านละ 12 รู ลำกล้องความยาว 460 มม. ยึดกับโครงปืนโดยใช้สลักขัดกับร่องที่ท้ายลำกล้อง ห้องแก๊สขนาดใหญ่เป็นที่ยึดให้กับศูนย์เล็งหลักของปืน คันรั้งอยู่ด้านซ้าย วิ่งอยู่ในช่องที่ทำไว้ ต่อก้านมาดันกับชุดโครงนำลูกเลื่อน ส่วนของลูกสูบ ก้านสูบและโครงนำลูกเลื่อนเป็นชิ้นเดียวกัน ลูกเลื่อนมีขอรั้งปลอกและเหล็กคัดปลอกในตัว หมุนตัวโดยการไต่ลาดที่ทำไว้ที่ตัวลูกเลื่อนของสลักยึดลูกเลื่อน กันหลุดโดยมีแท่งบังคับโครงนำลูกเลื่อนขัดไว้อยู่ แหนบส่งลูกเลื่อนสอดอยู่ในก้านสูบ ด้านท้ายเป็นส่วนของการซับแรงกระแทกของชุดโครงนำลูกเลื่อนกับพานท้าย พานท้ายทำจากยางสำหรับช่วยซับแรงสะท้อนถอยหลัง และเปิดปิดเอาส่วนเคลื่อนที่ออกมา ชุดเครื่องลั่นไก เป็นแบบบล็อก อยู่ด้านหลังซองกระสุน ปรับจังหวะการยิงแบบ ห้ามไก ทีละนัด และอัตโนมัติ โดยจะต่อสะพานไกไปหาไกปืนที่อยู่ด้านหน้าช่องเสียบซองกระสุน คันบังคับการยิงจะเป็นแบบจำกัดระยะลากไกปืน (คล้ายๆปลย.Steyr AUG ของออสเตรีย) ช่องเสียบซองกระสุนรองรับซองมาตรฐานนาโต้ คันปลดซองอยู่ด้านหน้าของช่องเสียบซองกระสุน ประกับรองมือ ทำร่องไว้สำหรับติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. M203 กับใต้ลำกล้อง ศูนย์เล็งหลักเป็นกล้องสะท้อนภาพแบบจุดแดง
ในปี 2002 หลังจากได้รับการทดสอบและปรับปรุงให้เข้าที่เข้าทาง
ตัวมาตรฐาน TAR-21
ตัวปืนยังเป็นรูปทรง Bullpup โครงปืนเป็นโลหะสอดอยู่ในโครงปืนโพลิเมอร์ขึ้นรูปมาพร้อมกับด้ามปืน โคร่งไกปืน ช่องเสียบซองกระสุน และชุดพานท้าย ทำช่องระบายแก๊สด้านละ 4 ช่อง ลำกล้องยาว 460 มม. ยึดกับโครงปืนส่วนโลหะด้วย สลักแบบเฉพาะตัว ลำกล้องแบบ 6 เกลียวเวียนขวา ครบรอบที่ระยะ 177.8 มม. (7 นิ้ว) เคลือบโครเมียมทั้งในลำกล้องและรังเพลิง ห้องแก๊สใช้เป็นฐานสำหรับยึดให้กับ ศูนย์เล็งหลัก หรือชุดรางสำหรับใช้ติดตั้งกล้องช่วยเล็งแบบอื่นๆ คันรั้งอยู่เหนือแนวลำกล้องท้างด้านซ้าย ต่อก้านไปดันต่อชุดโครงนำลูกเลื่อน ในด้านที่ไม่ใช้งานจะเป็นรางติดอุปกรณ์แทน หูกระวินบน อยู่ถัดจากแนวคันรั้ง ส่วนของลูกสูบ ก้านสูบ และโครงนำลูกเลื่อนติดเป็นชิ้นเดียวกัน ลูกเลื่อนมีขอรั้งปลอกที่ใช้ลูกยางขอรั้งปลอก และมีเหล็กคัดปลอกที่หัวลูกเลื่อน บังคับให้หมุนตัวโดยสลักยึดเข็มแทงชนวนปีนกับลาดที่ตัวลูกเลื่อน กันหลุดโดยแท่งบังคับโครงนำลูกเลื่อน ชุดแหนบส่งลูกเลื่อนอยู่แนวเดียวกับก้านสูบ ด้านท้ายจะเป็นส่วนของการซับแรงกระแทกของชุดโครงนำลูกเลื่อนกับแผ่นปิดท้าย ช่องคัดปลอกทำไว้ทั้งสองด้านแต่จะมีแผ่นปิดด้านซ้ายเอาไว้ ชุดเครื่องลั่นไกเป็นแบบบล็อก ยึดกับโครงปืนด้วยสลักร้อย 2 ตัว เลือกปรับจังหวะ ห้ามไก ทีละนัด และอัตโนมัติ โดยจะต่อสะพานไกไปยังไกปืน โดยมีคันบังคับการยิงทำหน้าที่จำกัดระยะลากของไกปืนเป็นตัวกำหนดจังหวะการยิง คันบังคับการยิงอยู่ด้านซ้ายเหนือด้ามปืน โกร่งไกปืนเป็นแบบกันทั้งมือ ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันกับโครงปืน ช่องเสียบซองกระสุนรองรับซองกระสุนมาตรฐานนาโต้ ด้านหน้าจะมีคันปลดซองกระสุน และด้านหลังจะเป็นตัวปลดการค้างลูกเลื่อนและเป็นฝาครอบชุดเครื่องลั่นไกด้านล่าง แผ่นปิดท้ายทำจากยางสำหรับซับแรงสะท้อนถอยหลัง ยึดด้วยสลัก 2 ตัว สำหรับถอดเอาส่วนเคลื่อนที่ออกมาทำความสะอาดได้ ประกับรองมือ สามารถถอดเปลี่ยนได้ ด้านล่างจะมีรูไว้สำหรับติดตั้งขาทราย หรือรางติดอุปกรณ์เสริมได้ สามารถติดเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. M203 โดยการถอดประกับรองมือออก และมีชุดเสริมการติดตั้งเข้ามา และมีแท่นติดดามปลายปืนสำหรับติดดาบปลายปืนแบบ M9 ได้ ปลายลำกล้องใช้ปลอกหักเหแรงดันแบบ M16A2 สามารถถอดออกแล้วติดตั้งปลอดลดเสียงได้ ศูนย์เล็งหลัก ใช้กล้องเล็งสะท้อนภาพ Meprolight 21M หรือ ITL MARS และมีศูนย์เหล็กสำรองทั้งศูนย์หน้าและศูนย์หลัง ด้านท้ายศูนย์หลังจะมีแท่นสำหรับติดกล้องช่วยเล็งแบบมีกำลังขยาย หรือ กล้องมองกลางคืน หรือศูนย์ช่วยเล็งสำหรับเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ตัวปืน TAR-21 สำหรับคนถนัดซ้ายโดยจะทำการสลับด้านกับตัวปืนของคนถนัดขวา ซึ่งจะใช้ชิ้นส่วนเดิมได้เกือบทุกส่วนยกเว้นลูกเลื่อนที่ต้องเปลี่ยนเป็นของปืนซ้ายโดยเฉพาะวงรอบการทำงาน
https://www.youtube.com/watch?v=blc8_J3mSUs
ในปี ค.ศ.2005 IMI Small Arms Branch ได้แยกตัวออกมาตั้งเป็น Israeli Weapon Industry Ltd. หรือ IWI และทำตลาดภายใต้แบรนด์ IWI นับแต่นั้นมา และปัจจุบัน IWI เป็นบริษัทในเครือของ SK Group ที่เป็นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอิสราเอล
ข้อมูลทางเทคนิค
ออกแบบโดย Israeli Military Industry,Small Arms Branch
ระบบการทำงานด้วยแก๊สดันต่อลูกสูบแบบช่วงชักยาว ลูกเลื่อนหมุนตัวขัดกลอนกับท้ายรังเพลิง
ขนาดกระสุน 5.56x45 มม. NATO M855/SS109
ลำกล้องขนาด 5.56 มม. แบบ 6 เกลียวเวียนขวา ครบรอบที่ระยะ 177.8 มม. (7 นิ้ว)
ลำกล้องยาว 460 มม. (18.1 นิ้ว)
ความเร็วปากลำกล้อง 910 เมตร/วินาที
อัตราเร็วการยิง 750-900 นัด/นาที
ระยะหวังผล 550 ม. ลงมา
ตัวปืนยาว 720 มม.
น้ำหนัก 3.27 กก.
ซองกระสุน STANAG Mag 30 นัด
ศูนย์เล็ง Meprolight M21 หรือ ITL MARS ศูนย์สำรอง Iron Sight
จบตอนที่ 1 ของ Tavor Story
เขียน และเรียบเรียงโดย : Gtd.77 จากเพจ GUN in The World
Comments